โลกเราในปัจจุบันหมุนไปอย่างรวดเร็ว ส่งผลทำให้เทรนด์ต่างๆ ที่เกี่ยวของกับพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วด้วยเช่นกัน รวมถึงเทรนด์ของการทำธุรกิจ ดังนั้นผู้ประกอบการหรือองค์จึงจำเป็นศึกษาหาความรู้ ต้องให้ความสนใจกับกระแสต่าง ๆ เหล่านี้เพื่อจะได้นำมาปรับกับธุรกิจของตัวเองให้เติบโตและอยู่รอด สหพันธ์การตลาดแห่งเอเชีย (AMF) Asia Marketing Federation และสมาคมการตลาดแห่งประเทศไทย ได้จัดทำรายงานพิเศษหัวข้อ “10 เทรนด์การตลาดแห่งเอเชีย ประจำปี 2563” เป็นการจับความเคลื่อนไหวและการเปลี่ยนแปลงของการตลาดในภูมิภาคเอเชีย รวมถึงการวิเคราะห์จากผู้เชี่ยวชาญของสมาคมการตลาดแห่งเอเชียจากประเทศสมาชิกในเอเชียทั้ง 17 ประเทศ เช่น จีน ญี่ปุ่น เกาหลี อินโดนีเซีย ไทย มาเลเซีย พม่าฯ และสรุป 10 เทรนด์ ดังนี้
1. Voice Search Optimization : เทรนด์การค้นหาด้วยเสียง เทคโนโลยี และปัญญาประดิษฐ์ หรือที่เรารู้จักกันในนามของ AI ที่ถูกพัฒนาขึ้นอย่างต่อเนื่อง ที่ผู้บริโภคยุคใหม่ต้องการความสะดวกสบายรวดเร็วทันใจ พวกเขาแสวงหาทางเลือกใหม่ๆ ในการใช้อุปกรณ์สมาร์ทโฟน ทำให้การจดจำเสียงได้รับความแม่นยำมากขึ้น และมีการตอบสนองอย่างชาญฉลาด ส่งผลให้เทรนด์การค้นหาด้วยเสียงเป็นหนึ่งเทรนด์ที่รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้มีการมุ่งพัฒนาเทคโนโลยีนี้ให้ก้าวไกลและแม่นยำมากขึ้นเรื่อยๆ
2. Hyper-Personalization : สินค้าและบริการแบบประสบการณ์ เฉพาะสำหรับคุณการพัฒนาการด้านเทคโนโลยีที่เกี่ยวเนื่องกับ Big Data และ AI สร้างโอกาสให้นักการตลาดสามารถสร้างประสบการณ์ให้กับผู้บริโภคเฉพาะแบบรายบุคคล ให้ตรงความต้องการมากยิ่งขึ้น ถึงเวลาที่แบรนด์ต้องลงทุนทำการตลาดเพื่อตอบสนองความคาดหวังที่เพิ่มขึ้นของผู้บริโภค การซื้อผลิตภัณฑ์และบริการ กลุ่มเป้าหมายต้องการประสบการณ์ที่แบรนด์ต้องรู้ใจและเหมาะกับตัวผู้บริโภคนั้นมากที่สุด ซึ่งนักการตลาดต้องนำวิทยาการข้อมูล และการวิเคราะห์คาดการณ์พฤติกรรมผู้บริโภคเพื่อทำตลาด มอบประสบการณ์ให้ตรงใจและดีสุดๆ
3. Moment-based Marketing มอบสิ่งที่ใช่ ในเวลาที่ใช่ การใช้ประโยชน์จาก Micro Moments หรือช่วงเวลาเล็กๆ ช่วงเวลาหนึ่ง ในการใช้ชีวิตประจำวันของผู้บริโภคเป็นสิ่งสำคัญที่แบรนด์สามารถจะนำเสนอคุณค่าบางอย่าง ‘ที่เฉพาะเจาะจง’ กับช่วงเวลานั้นๆ ให้แก่ผู้บริโภคได้ ในยุคปัจจุบันนี้ขั้นตอนการตัดสินใจของผู้บริโภคมีความซับซ้อนมากยิ่ง ไม่เรียบง่ายเหมือนเดิม แต่จะมีรูปแบบอีกมากมายที่ธุรกิจหรือองค์กรต้องศึกษาเรียนรู้และปรับตัว ดังนั้น ธุรกิจควรใช้ประโยชน์จาก Micro Moments หรือช่วงเวลาเล็กๆ ในการใช้ชีวิตประจำวันของผู้บริโภค เพื่อนำเสนอคุณค่าบางอย่างของสินค้าและบริการ ‘ที่เฉพาะเจาะจง’ กับช่วงเวลานั้นๆ ให้แก่กลุ่มเป้าหมายได้
4.การเติบโตของ Video Search Optimization ในปัจจุบันจะก้าวเข้ามาแทนที่ SEO แบบเดิมๆ ที่ผู้บริโภคนิยมใช้สื่อวีดีโอในการเรียนรู้เกี่ยวกับสินค้าและบริการใหม่ๆ ด้วยเทคโนโลยี Video Search Optimization เพิ่มขึ้น ทำให้การขายสินค้าหรือบริการง่ายขึ้นระหว่างดูวิดีโอ ดังนั้น นักการตลาดควรจะสร้างสรรค์เนื้อหาแบบ Visual มากขึ้น ที่ส่งผลกับการพฤติกรรมการตัดสินใจของผู้บริโภค ไม่ว่าจะเป็นการให้ข้อมูลแบบ อินโฟกราฟฟิกที่น่าสนใจ, Data Visualization, ภาพและเนื้อเรื่องที่ส่งผลต่ออารมณ์และความชื่นชอบในทุกช่องทางของการสื่อสารการตลาดและแบรนด์สินค้า
5.นวัตกรรมเครื่องพิมพ์อาหารนาโน : Nano Food Printing สามารถปรับแต่งอาหารและโภชนาการให้เหมาะสมตอบโจทย์สุขภาพของรายบุคคล เมื่อนวัตกรรมนาโนเทคโนโลยี จะเปิดศักยภาพใหม่และความเป็นไปได้ใหม่ๆ ในการแปรรูปอาหาร และจะเพิ่มเอนไซม์ที่เป็นประโยชน์แก่ร่างกายให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น มีอายุยืนยาวขึ้น และประหยัดค่าใช้จ่ายขึ้น แต่ยังรวมถึงการหลีกเลี่ยงเชื้อโรคและส่วนประกอบทางเคมีอื่นๆด้วย
6.Space Technology Revolutionary ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่มาจากการสื่อสารทางแสงแบบไร้สายจากดาวเทียมที่จะมาแทนสายเคเบิลใยแก้วแบบเดิมๆ ซึ่งเทคโนโลยีเลเซอร์ความเร็วสูงในอวกาศมาแทนที่เส้นใยเคเบิลใต้มหาสมุทร จะช่วยให้การเข้าถึงอินเทอร์เน็ตและการเชื่อมต่อไร้ขีดจำกัดทั่วโลก ทำให้การสัมผัสกับเทคโนโลยีอัจฉริยะได้อย่างราบรื่นยิ่งขึ้นโดยไม่มีข้อจำกัดทางภูมิศาสตร์
7.การมาถึงของเทคโนโลยี 5Gs และ bandwidth ขนาดใหญ่ ความเร็วและแรงที่จะเกิดขึ้นจริงในโลกการสื่อสาร ระบบ 5Gs และแบนด์วิทช์ขนาดใหญ่ จะเสริมศักยภาพของการตลาดในอนาคต โดยเฉพาะในเรื่องของการทำตลาดเฉพาะบุคคล เพราะความเร็วของเทคโนโลยีนี้จะช่วยเรื่องการส่งต่อของข้อมูลให้ลื่นไหล และการทำการตลาดด้วยคอนเทนท์น่าสนใจมากยิ่งขึ้น
8. Holographic Technology & Imagining Technology: เมื่อโลกแห่งจินตนาการกลายเป็นเรื่องจริง เมื่อเทคโนโลยี 5G จะช่วยทำให้ Holographic Technology & Imagining Technology กลายเป็นเครื่องมือทางเลือกที่มาแทนที่จอโทรทัศน์ที่เป็นภาพ 2 มิติ สำหรับโลกบันเทิงและการสื่อสารในอนาคต แล้วเราจะได้เห็นผลิตภัณฑ์ 3D โฮโลแกรมที่ได้รับแรงบันดาลใจจากภาพยนตร์สตาร์วอร์ออกสู่ท้องตลาดมากมาย ความเป็นไปได้ของธุรกิจนี้จะขยายไปอีกมากจากการเติบโตของเทคโนโลยี
9. Co-working Space: ไม่ใช่แค่การแบ่งปันสถานที่อีกต่อไป แต่รูปแบบธุรกิจใหม่คือการแบ่งปันทรัพยากรและความเชี่ยวชาญ เป็นการแบ่งปันพื้นที่ทำงานร่วมกันนั้น เทรนด์นี้ยังนำไปสู่แนวคิดเศรษฐกิจแบบ Sharing Economy ที่มีการแบ่งปันทั้งองค์ความรู้ ทรัพยากร และความเชี่ยวชาญ เพราะสิ่งเหล่านี้ช่วยลดต้นทุนโดยรวมได้ ซึ่งการดำเนินงานและรูปแบบธุรกิจดังกล่าวเป็นที่นิยมในหมู่ผู้ประกอบการรุ่นใหม่และบริษัทขนาดเล็กที่เพิ่งเริ่มต้นเป็นอย่างมาก
10. Travel intentions for social causes: เทรนด์การท่องเที่ยวเพื่อสังคม ในปัจจุบันโครงสร้างทางสังคมได้เอื้อให้ประชากรเดินทางได้ง่ายขึ้น ด้วยค่าใช้จ่ายในการเดินทางที่น้อยลง ดังนั้นเราจึงเห็นการเติบโตของเทรนด์การเดินทางรูปแบบใหม่ เทรนด์การท่องเที่ยวเพื่อช่วยเหลือสังคม โดยมีวิธีการท่องเที่ยวก็จะช่วยเติมเต็มความต้องการของผู้เดินทาง ส่วนหนึ่งมาจากความตั้งใจทำให้ทริปแต่ละทริปมีความหมายมีคุณค่ายิ่งขึ้น ที่สามารถคืนสิ่งดีๆสู่สังคมได้จะมีมากขึ้น การช่วยงานสาธารณประโยชน์เพื่อส่วนรวม และคืนสิ่งดีๆ กลับสู่สังคมนอกเหนือชุมชนที่พวกเขาพักอาศัยอยู่เท่านั้น
Source: www.marketingthai.or.th www.bangkokbiznews.com www.intvthai.com